ช่วงแรก

ลินทซ์เริ่มเป็นนักฟุตบอลเยาวชนใหักับสโมสรในท้องถิ่น อย่างดีเอสวี เลโอเบิน เมื่ออายุ 15 ปี เขาได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศเยอรมนี กับสโมสรในรัฐบาวาเรีย อย่างทีเอสวี 1860 มิวนิก

หลังจากนั้น 2 ปีถัดมา ลินทซ์ได้กลับไปที่บ้านเกิดในประเทศออสเตรีย และได้กลับไปเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลในบ้านเกิด โดยให้ความสำคัญกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมากขึ้น ซึ่ง 2 ปีต่อมานั้นเขาสามารถทำได้ถึง 27 ประตู ใน 53 นัด เขามีฟอร์มการเล่นที่ดีกับดิวิชั่น 2 และเขาได้ถูกซื้อตัวไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่า ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 ลินทซ์ได้เข้าร่วมกับสโมสรฟุตบอลที่อยู่ในแนวหน้าของออสเตรีย คือออสเตรีย เวียนนา ในกรุงเวียนนา

ที่ออสเตรียเวียนนา ลินซ?เริ่มประสบความสำเร็จ เมื่อได้แชมป์ บุนเดิสลีกา ออสเตรีย และ ออสเตรียนคัพ ในฤดูกาล 2002–03 อีก 1 ปีต่อมาเขาได้ถูกยืมตัวไปยังอาดมีราเมิดลิง ตั้งอยู่ในทางตอนใต้ห่างออกจากเมืองหลวงไป

ไปต่างประเทศอีกครั้ง / การกลับมา

ในปี ค.ศ. 2004 ลินทซ์มีอายุ 23 ปี ได้ย้ายไปเล่นให้กับนีซ ในลีกเอิง ประเทศฝรั่งเศส ในสัญญายืมตัว อย่างไรก็ตามเขาล้มเหลวที่จะพิสูจน์ตัวเองและได้กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้งหลังจาก 6 เดือน โดยเล่นให้กับ สตรวมกราซ จนจบฤดูกาล 2004–05

ลินทซ์นั้นได้กลัยไปยัง ออสเตรียเวียนนา ในฤดูกาล 2005–06 และได้ดับเบิลแชมป์ อีกทั้งยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีกอีกด้วย ต่อมาเขาได้สร้างชื่อเสียงของเขาให้กับทีมชาติออสเตรีย ด้วยการทำ 2 ประตู ในนัดที่พบกับโปแลนด์ ในเกมที่แพ้ 2–3 ที่สนามซีเลเซียนสเตเดียม ในเมืองชอร์ซอร์

โปรตุเกส / ปีถัดมา

หลังจากที่มีฟอร์มที่โดดเด่นในการเล่นระดับสโมสรและทีมชาติ ทำให้สโมสรต่างๆก็ได้ให้ความสนใจในตัวลินทซ์มากขึ้น และตอมาเขาได้ไปอยู่กับ โบอาวิสตา ในช่วงฤดูร้อน ปีค.ศ. 2006 ด้วยสัญญา 3 ปี โดยฤดูกาลแรกสามารถทำได้ 10 ประตู ต่อมาเขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับบรากา[1]

ในยูฟ่าคัพ 2007–08 ลินทซ์ทำได้ 5 ประตู แต่ก็ตบรอบเพราะแพ้ให้กับแวร์เดอร์เบรเมน อีกทั้ง 11 ประตูในลีก ทำให้เยา ตอมาซ ต้องนั่งเป็นตัวสำรอง

หลังจากการเข้ามาของจอร์กี เชซูส ตามด้วยการแพ้ให้กับ เลโซเอส 0–2 ต่อมาในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2008 ลินทซ์ถูกลดความสำคัญจากการเป็นผู้เล่นตัวหลักของบรากา ทำให้ต่อมาในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2009 เขาถูกส่งให้ กราสฮอปเปอร์คลับซูริก ยืมตัวไปจนจบฤดูกาล.ในการลงเล่นนัดแรกของเขากับกราสฮอปเปอร์คือในนัด ซูริคดาร์บีในนัดที่พบกับ เอฟซี ซูริค ลินทซ์สามารถทำประตูได้นัดนี้ แต่ก็ต้องโดนไล่ออกหลังจากได้ ใบเหลือง 2 ใบในนาทีที่ 39 และ 41

ลินทซ์ได้เซ็นสัญญากับ กาเซียนเท็ปสปอร์ ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2009 ในสัญญา 3 ปี,[2].ในปี ค.ศ. 2010 ลินทซ์ได้กลับไปอย่างบ้านเกิดของตนและเซ็นสัญญากับออสเตรียเวียนนาอีกครั้ง.ประตูนัดแรกของเขาเกิดขึ้นในนัดที่ออสเตรีย เวียนนาเปิดบ้านเอาชนะ แคปเฟนเบอร์เกอร์เอสเฟา ไปด้วยสกอร์ 4-3.

ไทย

หลังจากผ่านไปหลายปีที่ผ่านการเล่นฟุตบอลในยุโรป. ในปลายปี ค.ศ. 2012 ลินทซ์ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับสโมสรที่ได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 3 สมัยอย่าง สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด. ซึ่งสโมสรหวังว่าลินทซ์จะทำผลงานได้ดีใน ไทยพรีเมียร์ลีก และ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก. โดยประตูแรกของเขากับสโมสรใหม่คือในนัดกระชับมิตรกับสโมสร จูบิโล อิวะตะ จากเจลีก ผลการแข่งขันเสมอกันไป 1-1. ในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2013 ประตูนัดแรกในการลงเล่นอย่างเป็นทางการของเขากับเมืองทองคือในนัดที่เมืองทองยูไนเต็ดพบกับ สงขลา ยูไนเต็ด โดยผลคือเมืองทองยูไนเต็ดชนะไป 3-0.